ภาพมุมมองของชาวต่างถิ่นในกรุงโซลจากภาพยนตร์เรื่อง “MIMANG”ยึดมั่นในความตั้งใจสร้างสรรค์ เชื่อมโยงประสบการณ์ในเมืองกับชีวิตมนุษย์

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. ผู้กำกับและเวลาถ่ายทำ
  3. เนื้อเรื่องและโครงสร้าง
  4. ความหมายของชื่อเรื่อง
  5. แรงบันดาลใจจากผู้กำกับอื่น
  6. แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง
  7. ความท้าทายและการระดมทุน
  8. สถานการณ์ภาพยนตร์ในยุคโรคระบาดและอนาคต
  9. Q&A

บทนำ

ผู้กำกับดาวรุ่งเกาหลี “คิมแทยัง” ถ่ายทอดชีวิตประจำวันในกรุงโซลผ่านมุมมองของชาวต่างถิ่น ภาพยนตร์อินดี้เกาหลีเรื่อง “MIMANG” กำกับโดยคิมแทยัง ผู้กำกับดาวรุ่งที่ใช้เวลาถ่ายทำถึง 4 ปี ตัวหนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของคู่รักที่เคยเลิกรากันและกลับมาพบกันอีกครั้ง KUBET ผ่านมุมมองของชาวต่างถิ่นที่ค่อย ๆ ถ่ายทอดชิ้นส่วนชีวิตในกรุงโซล พร้อมกับเรื่องราวสามช่วงเวลาของความสัมพันธ์ และได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมเทศกาลหนังโตรอนโต สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ

รายการรายละเอียด
ชื่อภาพยนตร์MIMANG
ผู้กำกับคิมแทยัง (ผู้กำกับดาวรุ่ง)
ระยะเวลาถ่ายทำ4 ปี
เนื้อเรื่องเรื่องราวคู่รักที่เคยเลิกรากันและกลับมาพบกันอีกครั้ง ผ่านมุมมองของชาวต่างถิ่นในกรุงโซล
โครงสร้างเรื่องราวเล่าเรื่องใน 3 ช่วงเวลาของความสัมพันธ์
การรับรองและรางวัลคัดเลือกเข้าร่วมเทศกาลหนังโตรอนโต และได้รับชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
ปัญหาในการสร้างภาพยนตร์การระดมทุนเป็นปัญหาสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์อินดี้ทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงโรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อโรงหนัง
มุมมองของผู้กำกับเชื่อว่ารูปแบบการผลิตภาพยนตร์จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ความตั้งใจสร้างสรรค์จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ผู้กำกับและเวลาถ่ายทำ

ผู้กำกับคือ คิมแทยัง และใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 4 ปี แม้เกาหลีจะมีระบบสนับสนุนภาพยนตร์และการถ่ายทำที่ค่อนข้างดี แต่คิมแทยังยังยอมรับว่าการระดมทุนเป็นปัญหาที่ผู้สร้างภาพยนตร์อินดี้ทั่วโลกต้องเผชิญ ในช่วงที่โรคระบาดส่งผลกระทบต่อระบบโรงหนัง เขาเชื่อว่ารูปแบบการผลิตภาพยนตร์อาจเปลี่ยนไปตามยุคสมัย KUBET แต่ความตั้งใจในการสร้างสรรค์จะไม่เปลี่ยนแปลง

เนื้อเรื่องและโครงสร้าง

ภาพยนตร์ “MIMANG” เล่าเรื่องราวชีวิตคู่รักที่เคยเลิกรากันและกลับมาพบกันอีกครั้ง โดยแบ่งเรื่องเป็น 3 ช่วงตอนในย่านจงโน กรุงโซล ใกล้กับประตูแสงสว่าง (กวางฮวามุน) ย่านที่ผสมผสานระหว่างตึกสูงทันสมัยและตรอกซอกซอยเก่าแก่ KUBET ซึ่งสะท้อนตัวตนของโซลได้ดีที่สุด

ความหมายของชื่อเรื่อง

ชื่อภาพยนตร์ภาษาเกาหลีคือ (MIMANG) ซึ่งเป็นคำอ่านเดียวกับคำที่มีความหมายต่างกันสามคำ ได้แก่ (ความสับสน), (ไม่ลืม) และ “ (ความหวัง) KUBET ซึ่งสอดคล้องกับธีมของทั้งสามตอนในหนังได้อย่างลงตัว ผู้กำกับยังสร้างคำพ้องเสียงใหม่ชื่อ เพื่อสื่อสารความหมายลึกซึ้งเพิ่มเติม ทำให้ชื่อเรื่องมีความหมายหลากหลายชั้นและเปิดกว้างให้จินตนาการของผู้ชม

แรงบันดาลใจจากผู้กำกับอื่น

คิมแทยังได้รับแรงบันดาลใจจากผู้กำกับภาพยนตร์ใหม่ชาวไต้หวัน KUBET โดยเฉพาะหยางเต๋อจาง จากภาพยนตร์ “Yi Yi ” ที่สามารถเชื่อมโยงตัวละครกับเมืองได้อย่างกลมกลืนและสมจริง เขายังชื่นชอบสไตล์ภาพและการใช้สีของหว่องกาไว ในภาพยนตร์ “In the Mood for Love ” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขานำเสนอกรุงโซลในแบบที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวัน เช่น ร้านบะหมี่ข้างบ้าน หรือความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ เขายังได้รับอิทธิพลจากผู้กำกับอย่างริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ (ผู้กำกับ “Before Sunrise”) และผู้กำกับเกาหลีชื่อดัง อีชางดง KUBET ทำให้ผลงานของเขามีความละเอียดอ่อนทั้งด้านอารมณ์และบรรยากาศของเมือง

แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง

เรื่องราวของ “MIMANG” มาจากประสบการณ์จริงของคิมแทยังกับนักแสดงนำหญิง “อีมยองฮา” หนังสั้น “หอยทาก” เล่าถึงคู่รักที่เลิกรากันและบังเอิญกลับมาพบกันอีกครั้ง ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงที่พวกเขาพบกันในย่านจงโน หลังจากหนังสั้นประสบความสำเร็จ คิมแทยังมีไอเดียที่จะเล่าเรื่องราวหลังจากนั้นที่ทั้งคู่เจอกันอีกครั้งหลายปี และรำลึกถึงอดีต KUBET จึงค่อย ๆ พัฒนากลายเป็นหนังยาว “MIMANG” ตัวละครในหนังไม่ได้ถูกตั้งชื่อจริง มีเพียงเรียกตามบทบาท เช่น “ชาย”, “หญิง” และ “หัวหน้า” เพื่อให้ผู้ชมสามารถสะท้อนตัวเองกับตัวละครและเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น

ความท้าทายและการระดมทุน

“MIMANG” ใช้วิธีการระดมทุนทีละตอน จากหนังสั้น “หอยทาก” ที่ได้รับรางวัล เริ่มหาทุนสำหรับตอนที่สอง และหลังจากถ่ายทำเสร็จจึงหาเงินสำหรับตอนที่สาม ใช้เวลาถึง 4 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ คิมแทยังยอมรับว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของหนังอินดี้คือการหาทุนทำหนัง เขากล่าวว่า “เพื่อเล่าเรื่องที่อยากเล่า ต้องยืนหยัดในความเป็นอิสระและความโดดเด่น พร้อมสื่อสารแนวคิดกับนักลงทุนให้เข้าใจและเห็นด้วย” อย่างไรก็ตาม เขาก็เห็นว่าเกาหลีใต้มีข้อได้เปรียบในเรื่องการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านโลเคชั่นถ่ายทำ

สถานการณ์ภาพยนตร์ในยุคโรคระบาดและอนาคต

โรคระบาดส่งผลกระทบอย่างหนักต่อวงการภาพยนตร์ทั่วโลก รวมถึงภาพยนตร์อินดี้ ในหนังมีฉากโรงหนังอินดี้ในกรุงโซลซึ่งเคยได้รับความนิยม แต่ต้องปิดตัวในปี 2021 คิมแทยังมองโลกในแง่ดีว่า “หนังไม่เคยตายไป KUBET เช่นเดียวกับตอนที่โทรทัศน์เข้ามา หลายคนบอกว่าหนังจะหมดไป แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตลาดภาพยนตร์จะปรับตัวและเกิดรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้น” เขาเชื่อว่าในอนาคต วิธีการผลิตและเนื้อหาของหนังจะเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย แต่แนวคิดและความตั้งใจในการสร้างสรรค์จะยังคงอยู่ คิมแทยังจะเดินหน้าสำรวจโลกและสร้างหนังของตัวเองต่อไป ขณะนี้กำลังเตรียมงานหนังยาวเรื่องใหม่ชื่อ “เรื่องราวโซล” (ชื่อชั่วคราว) ที่เล่าเรื่องราวจากมุมมองแม่ของพระเอกใน “MIMANG” ซึ่งย้ายจากชนบทมาโซลเพื่อมาเยี่ยมลูก ๆ

Q&A

1. ใครคือผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “MIMANG” และภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำนานเท่าใด?
ผู้กำกับคือ คิมแทยัง และใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 4 ปี

2. ภาพยนตร์ “MIMANG” เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และมีโครงสร้างอย่างไร?
เล่าเรื่องราวชีวิตคู่รักที่เคยเลิกรากันและกลับมาพบกันอีกครั้ง โดยแบ่งเรื่องเป็น 3 ช่วงตอนในย่านจงโน กรุงโซล

3. ชื่อเรื่อง “MIMANG” มีความหมายอย่างไร และสื่อถึงอะไรบ้าง?
“MIMANG” เป็นคำพ้องเสียงในภาษาเกาหลีที่หมายถึง “ความสับสน” “ไม่ลืม” และ “ความหวัง” สะท้อนธีมทั้งสามตอนของหนัง และยังมีคำพ้องเสียงใหม่ ที่สื่อความหมายลึกซึ้งเพิ่มเติม

4. คิมแทยังได้รับแรงบันดาลใจจากผู้กำกับคนใดบ้าง และสิ่งนี้สะท้อนอย่างไรในภาพยนตร์?
ได้รับแรงบันดาลใจจากหยางเต๋อจาง, หว่องกาไว, ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ และอีชางดง ซึ่งช่วยให้ภาพยนตร์มีความละเอียดอ่อนทั้งด้านอารมณ์และบรรยากาศของเมือง พร้อมนำเสนอกรุงโซลอย่างใกล้ชิดกับชีวิตประจำวัน

5. คิมแทยังมองสถานการณ์ภาพยนตร์อินดี้ในยุคโรคระบาดอย่างไร และมีแผนงานต่อไปอย่างไร?
มองโลกในแง่ดีว่าแม้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงแต่หนังไม่เคยตาย และจะปรับตัวตามยุคสมัย เขากำลังเตรียมงานหนังยาวเรื่องใหม่ชื่อ “เรื่องราวโซล” ซึ่งเล่าจากมุมมองแม่ของพระเอกใน “MIMANG”




เนื้อหาที่น่าสนใจ: