อินดี้สร้างปรากฏการณ์ 5/จากโรงเดียวขยายสู่ 400 โรง “ซามูไรทะลุมิติ” แรงไม่หยุด! พระเอกส่งสารอยากมาเยือนไต้หวัน


สารบัญ

  1. จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ปรากฏการณ์ทั่วประเทศ
  2. จากความพยายามสู่ความสำเร็จระดับชาติ
  3. คว้ารางวัลใหญ่ต่อเนื่องจากหลายเวที
  4. ยามากุจิ มากิยะ: “ยังรู้สึกเหมือนเป็นตัวละครที่ได้รับรางวัลมากกว่าผม”
  5. อยากพบแฟน ๆ ที่ไต้หวัน!
  6. บทสรุป: พลังของ “ศรัทธาในเรื่องเล่า”
  7. Q&A

จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ปรากฏการณ์ทั่วประเทศ

“ซามูไรทะลุมิติ”  ผลงานอินดี้โดยผู้กำกับ อาสึดะ จุนอิจิ  ไม่ได้เพียงแจ้งเกิดด้วยไอเดียที่แปลกใหม่ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในแง่ของ การตลาดแบบปากต่อปาก KUBET โดยเริ่มฉายที่โรงภาพยนตร์อิสระ CinemaROSA ในย่านอิเคะบุคุโระ กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นแหล่งรวมแฟนหนังอินดี้

เนื่องจากไม่มีงบประชาสัมพันธ์ ทีมผู้กำกับและนักแสดงจึงทุ่มเทลงพื้นที่ด้วยตนเอง ทั้งแจกใบปลิว พูดคุยกับผู้ชม และสร้างสัมพันธ์กับชุมชนแฟนหนังผ่านโซเชียลมีเดีย KUBET จนกระแสเริ่มปากต่อปากอย่างรวดเร็ว

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อภาพยนตร์ซามูไรทะลุมิติ
ผู้กำกับอาสึดะ จุนอิจิ
โรงภาพยนตร์ที่ฉายครั้งแรกCinemaROSA, ย่านอิเคะบุคุโระ กรุงโตเกียว
กลุ่มเป้าหมายแฟนภาพยนตร์อินดี้ในชุมชนท้องถิ่นและผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย
งบประชาสัมพันธ์ไม่มีงบประมาณหลักในการโปรโมต
วิธีโปรโมตทีมงานและนักแสดงลงพื้นที่แจกใบปลิว พูดคุยกับผู้ชม และสร้างสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย
ผลลัพธ์เกิดกระแส “ปากต่อปาก” ทำให้ภาพยนตร์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่แฟนหนังอินดี้

จากความพยายามสู่ความสำเร็จระดับชาติ

KUBET เพียงหนึ่งเดือนหลังจากฉายครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ GAGA เห็นศักยภาพของหนังและเข้าร่วมวางแผนขยายโรงฉายอย่างเป็นระบบ KUBET ภายในเดือนพฤศจิกายน หนังได้ฉายทั่วญี่ปุ่นกว่า 300 โรง และจนถึงปัจจุบันขยายเป็น กว่า 400 โรง โดยรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยน (ประมาณ 225 ล้านบาทไทย) เป็นที่เรียบร้อย

คว้ารางวัลใหญ่ต่อเนื่องจากหลายเวที

ซามูไรทะลุมิติ คว้ารางวัลใหญ่จาก Nikkan Sports Film Awards ได้แก่:

  • ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
  • ผู้กำกับยอดเยี่ยม
  • นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

และต่อเนื่องด้วยรางวัลจาก Blue Ribbon Awards KUBETรวมถึงเวทีใหญ่อย่าง Japan Academy Prize หรือที่รู้จักในนาม “ออสการ์ญี่ปุ่น”

ยามากุจิ มากิยะ: “ยังรู้สึกเหมือนเป็นตัวละครที่ได้รับรางวัลมากกว่าผม”

ยามากุจิ มากิยะ  ผู้รับบท ทาคาซากะ ชินซาเอมอน กล่าวอย่างถ่อมตนว่า “ตอนถ่ายทำก็แค่หวังว่าจะได้ฉายในโรงภาพยนตร์สักแห่ง หรืออย่างน้อยถ้าขึ้นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ก็ยังดี KUBET แต่ผลตอบรับเกินคาดมาก จนผมยังรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ได้รางวัล KUBET ไม่ใช่ตัวผมเองเลยด้วยซ้ำ”

อยากพบแฟน ๆ ที่ไต้หวัน!

เมื่อทราบว่าภาพยนตร์จะเข้าฉายในไต้หวัน ยามากุจิเปิดใจผ่านสื่อว่า
“ผมไม่เคยไปไต้หวันเลยครับ แต่ได้ยินจากเพื่อนหลายคนว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ผมอยากไปด้วยตัวเองจริง ๆ หนังเรื่องนี้เป็นผลลัพธ์ของความตั้งใจทั้งทีม ทุกคนมีใจรักในเรื่องราวนี้ KUBET เราหวังว่าข้อความในภาพยนตร์จะสามารถข้ามวัฒนธรรมและเข้าถึงหัวใจผู้ชมชาวไต้หวันได้”

ด้านนักแสดงและผู้ช่วยผู้กำกับ ซากุระ ยูโนะ  ก็เสริมว่า
KUBET“เราอยากมอบหนังเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่ทุ่มเทให้วงการภาพยนตร์ และขอให้ผู้ชมไต้หวันรักมันเหมือนที่เราเองรักมันเช่นกัน”

บทสรุป: พลังของ “ศรัทธาในเรื่องเล่า”

“ซามูไรทะลุมิติ” ไม่เพียงเป็นตัวแทนของหนังอินดี้ที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ KUBET แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า ความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารอย่างจริงใจ ยังสามารถสร้าง “ปรากฏการณ์” ได้ในวงการภาพยนตร์ที่แข่งขันกันดุเดือด

Q&A

คำถามที่ 1:
“ซามูไรทะลุมิติ” เริ่มฉายครั้งแรกที่ไหน และใช้วิธีการประชาสัมพันธ์อย่างไร?

คำตอบ:
เริ่มฉายที่โรงภาพยนตร์ CinemaROSA ในย่านอิเคะบุคุโระ โตเกียว โดยใช้การตลาดแบบปากต่อปาก ทีมงานลงพื้นที่แจกใบปลิว พูดคุยกับผู้ชม และสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเนื่องจากไม่มีงบประชาสัมพันธ์


คำถามที่ 2:
เหตุใดผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่จึงเข้ามาร่วมวางแผนขยายการฉายของภาพยนตร์?

คำตอบ:
เพราะเห็นศักยภาพของหนังหลังฉายไปได้เพียงหนึ่งเดือน จึงเข้าร่วมวางแผนการตลาดและขยายโรงฉายอย่างเป็นระบบ ทำให้หนังขยายไปฉายมากกว่า 400 โรงทั่วญี่ปุ่น


คำถามที่ 3:
“ซามูไรทะลุมิติ” ได้รับรางวัลอะไรจากเวทีต่าง ๆ บ้าง?

คำตอบ:
ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Nikkan Sports Film Awards รวมถึงรางวัลจาก Blue Ribbon Awards และ Japan Academy Prize


คำถามที่ 4:
ยามากุจิ มากิยะ ผู้รับบทนำ มีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความสำเร็จของภาพยนตร์?

คำตอบ:
เขารู้สึกถ่อมตน บอกว่าตอนถ่ายทำเพียงหวังว่าจะได้ฉายสักแห่ง ไม่คาดคิดถึงความสำเร็จขนาดนี้ และยังรู้สึกเหมือนเป็นตัวละครที่ได้รับรางวัลมากกว่าตัวเขาเอง


คำถามที่ 5:
นักแสดงและทีมงานมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการที่หนังจะเข้าฉายในไต้หวัน?คำตอบ:
ยามากุจิ มากิยะ เปิดใจว่าอยากไปเยือนไต้หวันด้วยตัวเอง และหวังว่าข้อความในหนังจะเข้าถึงใจผู้ชม ส่วนซากุระ ยูโนะ ก็หวังว่าผู้ชมไต้หวันจะรักหนังเรื่องนี้เหมือนที่ทีมงานรัก



เนื้อหาที่น่าสนใจ: