รายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” พาเด็กๆ บุกขั้วโลกเหนือ รายการเรียลลิตี้เด็กที่เปิดโลกทัศน์สู่ประเด็นโลกร้อน


สารบัญ

  1. ก้าวใหม่ของรายการเด็กในไต้หวัน
  2. “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” กับซีรีส์พิเศษ “โลกร้อน”
  3. เปิดมุมมองใหม่ผ่าน 3 พิธีกร 3 ประเทศ
  4. การคัดเลือกเด็กผู้เข้าร่วมที่พิถีพิถัน
  5. ขั้วโลกเหนือ: ความท้าทายและการเรียนรู้
  6. ปาเลาและนอร์เวย์: บทเรียนจากธรรมชาติและสังคม
  7. พิธีกรไม่ใช่ “ดารา” แต่เป็น “เพื่อนร่วมเดินทาง”
  8. เสียงสะท้อนจากทีมงาน
  9. บทสรุป: รายการเด็กที่ “ลึก” กว่าเดิม
  10. Q&A

ก้าวใหม่ของรายการเด็กในไต้หวัน

อุตสาหกรรมสื่อเด็กของไต้หวันประสบปัญหาขาดแคลนทรัพยากรมายาวนาน แต่ภายหลังจากการแก้ไข “กฎหมายสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ” กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดสรรงบประมาณใหม่กว่า 600 ล้านเหรียญไต้หวันให้กับสถานีโทรทัศน์สาธารณะ (PTS) เพื่อจัดตั้งช่องรายการสำหรับเด็ก และผลิตเนื้อหาคุณภาพ

ประเด็นรายละเอียด
ปัญหาเดิมขาดแคลนทรัพยากรสำหรับอุตสาหกรรมสื่อเด็กมาอย่างยาวนาน
การแก้ไขแก้ไข “กฎหมายสถานีโทรทัศน์สาธารณะ”
หน่วยงานที่รับผิดชอบกระทรวงวัฒนธรรม
งบประมาณที่จัดสรรกว่า 600 ล้านเหรียญไต้หวัน
วัตถุประสงค์จัดตั้งช่องรายการสำหรับเด็ก และผลิตเนื้อหาคุณภาพ

“หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” กับซีรีส์พิเศษ “โลกร้อน”

ด้วยงบประมาณที่เพิ่มขึ้น รายการเด็กชื่อดังอย่าง “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” KUBETได้เปิดตัวซีซั่นใหม่ภายใต้ธีม “โลกร้อน” โดยพาเด็กๆ เดินทางไกลไปยังขั้วโลกเหนือ ประเทศนอร์เวย์ และหมู่เกาะปาเลา เพื่อสำรวจปัญหาภาวะโลกร้อนผ่านประสบการณ์ตรง KUBET สร้างสรรค์ในรูปแบบรายการเรียลลิตี้ครั้งแรกของรายการ

เปิดมุมมองใหม่ผ่าน 3 พิธีกร 3 ประเทศ

รายการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยมีพิธีกร 3 คนคือ หลิน เจ๋อซี, เวิน เจินหลิง และเหยา อ้ายหนิง นำทีมเด็กๆ เยือน 3 ประเทศ:

  • อาร์กติก: เรียนรู้การเก็บตัวอย่างน้ำแข็ง และพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์
  • ปาเลา: ศึกษาผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น และวัฒนธรรม “BUL” หรือการห้ามจับปลา
  • นอร์เวย์: เยี่ยมชมบ้านพลังงานสะอาด และเรียนรู้ระบบสังคมคาร์บอนต่ำของประเทศผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม

การคัดเลือกเด็กผู้เข้าร่วมที่พิถีพิถัน

จากผู้สมัครกว่า 400 คน คัดเลือกเหลือเพียง 9 คน โดยดูจากความอยากรู้อยากเห็น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ KUBET และต้องนำเสนอแผนทดลองที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนด้วยตนเอง

ขั้วโลกเหนือ: ความท้าทายและการเรียนรู้

พิธีกรหลิน เจ๋อซี นอกจากเป็นผู้ดำเนินรายการยังต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม ขับรถ ทำอาหาร และเรียนรู้การใช้ปืนยิงสัญญาณเพื่อป้องกันหมีขั้วโลก KUBET

ความยากลำบาก:

  • การเดินทางไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
  • ไฟฟ้าและน้ำในเกาะต้องผลิตจากแหล่งธรรมชาติ
  • การนอนหลับในช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืนของฤดูร้อน

ปาเลาและนอร์เวย์: บทเรียนจากธรรมชาติและสังคม

ในปาเลา เด็กๆ เรียนรู้วิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะการห้ามล่าสัตว์น้ำในช่วงฤดูวางไข่

ในนอร์เวย์ ทีมงานมีแผนจะถ่ายทำการเลี้ยงกวางเรนเดียร์ของชาวพื้นเมืองซามิ KUBET แต่พลาดโอกาสเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

พิธีกรไม่ใช่ “ดารา” แต่เป็น “เพื่อนร่วมเดินทาง”

โปรดิวเซอร์ต้องการให้พิธีกรเป็นเพียงผู้ร่วมเดินทางกับเด็กๆ ไม่ใช่จุดศูนย์กลางของรายการ โดยกำหนดว่าต้องมีความสามารถในการอยู่ร่วมกับเด็ก 24 ชั่วโมง เช่น เวิน เจินหลิง KUBET ที่ร่วมเล่นเกมกับเด็ก ๆ หรือเหยา อ้ายหนิง KUBET ที่เล่นปริศนาคำศัพท์ในสนามบินขณะเครื่องบินล่าช้า

เสียงสะท้อนจากทีมงาน

โปรดิวเซอร์ จู เสี้ยวเฉวียน: “อย่าไปกำหนดเส้นทางให้เด็กมากเกินไป KUBET ปล่อยให้ธรรมชาตินำทาง มักได้ผลลัพธ์เกินคาด”

ผู้วางแผนรายการ อู๋ เจี้ยนเจิ้น: “ต้องเข้าใจอารมณ์ของเด็ก และให้เขาได้คิดด้วยตนเอง แม้จะเหนื่อยแต่จะได้เห็นการเติบโตที่แท้จริง”

บทสรุป: รายการเด็กที่ “ลึก” กว่าเดิม

“หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” ซีรีส์โลกร้อน ไม่ใช่แค่รายการบันเทิงเด็ก KUBETแต่เป็นการส่งเสริมวิธีคิดแบบนักวิทยาศาสตร์ KUBETส่งเสริมพลังบวกเรื่องสิ่งแวดล้อม และสร้างประสบการณ์ที่เด็กจะไม่มีวันลืม

Q&A

1. รายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” ซีซั่นใหม่มีธีมอะไร และพาเด็กๆ ไปที่ไหนบ้าง?
ตอบ: มีธีม “โลกร้อน” พาเด็กๆ ไปยังขั้วโลกเหนือ ประเทศนอร์เวย์ และหมู่เกาะปาเลา เพื่อเรียนรู้ปัญหาภาวะโลกร้อนผ่านประสบการณ์ตรง


2. มีพิธีกรกี่คนและแต่ละคนมาจากประเทศใด?
ตอบ: มี 3 คน ได้แก่ หลิน เจ๋อซี, เวิน เจินหลิง และเหยา อ้ายหนิง ซึ่งมาจาก 3 ประเทศต่างกัน


3. การคัดเลือกเด็กเข้าร่วมรายการมีเกณฑ์อะไรบ้าง?
ตอบ: คัดเลือกจากความอยากรู้อยากเห็น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และการนำเสนอแผนทดลองเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน โดยคัดจากผู้สมัครกว่า 400 คน เหลือ 9 คน


4. ความท้าทายที่พิธีกรหลิน เจ๋อซี เผชิญขณะถ่ายทำในขั้วโลกเหนือคืออะไร?
ตอบ: ต้องทำหน้าที่หัวหน้าทีม ขับรถ ทำอาหาร เรียนรู้ใช้ปืนยิงสัญญาณป้องกันหมี และเผชิญกับสภาพอากาศไม่แน่นอน รวมถึงการนอนหลับในช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืน


5. โปรดิวเซอร์มีแนวคิดอย่างไรเกี่ยวกับบทบาทของพิธีกรในรายการ?
ตอบ:
ต้องการให้พิธีกรเป็น “เพื่อนร่วมเดินทาง” กับเด็กๆ ไม่ใช่จุดศูนย์กลางของรายการ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และเติบโตด้วยตนเอง



เนื้อหาที่น่าสนใจ: