《น่าเกลียดที่สุด》: พัคจองมินท้าทายบทบาทคนตาบอด มีเรื่องราวด้านอารมณ์ซ่อนอยู่

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. พัคจองมินครั้งแรกที่รับบทสองตัวละคร
  3. เจาะลึกบทบาท: เรียนรู้การแกะสลักและเทคนิคการถ่ายทำ
  4. วรรณกรรมและกิจกรรมเพื่อสังคม
  5. กระบวนการเตรียมงานและการออกแบบการถ่ายทำ
  6. ข้อมูลการฉาย
  7. Q&A

บทนำ

นักแสดงชาวเกาหลีฝีมือดี พัคจองมิน ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ 《น่าเกลียดที่สุด》 ของผู้กำกับ ยอนซังโฮ จากภาพยนตร์ Train to Busan ครั้งแรกที่ท้าทายตัวเองด้วยการรับบท สองตัวละคร พร้อมกัน ได้แก่ นักแกะสลักตราประทับคนตาบอด อิมยองกึย ในวัยหนุ่ม KUBET และลูกชายของนักแกะสลัก อิมดงฮวาน

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อนักแสดงพัคจองมิน
สัญชาติเกาหลีใต้
ภาพยนตร์《น่าเกลียดที่สุด》
ผู้กำกับยอนซังโฮ (ผู้กำกับ Train to Busan)
จุดเด่นของบทบาท– เป็นครั้งแรกที่ท้าทายตัวเองด้วยการรับบทสองตัวละครพร้อมกัน
ตัวละครที่รับบท1. อิมยองกึย – นักแกะสลักตราประทับคนตาบอด ในวัยหนุ่ม 2. อิมดงฮวาน – ลูกชายของนักแกะสลัก
ความท้าทายเล่นสองบทบาทที่ต่างกันทั้งด้านบุคลิกและอารมณ์ในภาพยนตร์เดียว

พัคจองมินครั้งแรกที่รับบทสองตัวละคร

พัคจองมินกล่าวว่า บทบาทนี้มีความหมายสำคัญต่อเขาอย่างมาก เขาเป็นฝ่ายขอรับบทนักแกะสลักตาบอดในวัยหนุ่มด้วยตัวเอง เพราะพ่อของเขาตาบอดจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน เขาต้องการผ่านบทบาทนี้เพื่อเข้าใจความลำบากของพ่อ KUBET และเปลี่ยนความรู้สึกนี้เป็นพลังในการแสดง

เจาะลึกบทบาท: เรียนรู้การแกะสลักและเทคนิคการถ่ายทำ

เพื่อถ่ายทอดบทบาทนักแกะสลักตาบอด พัคจองมินต้องใส่ คอนแทคเลนส์สีขาวขุ่นพิเศษ และทนต่อความไม่สะดวกจากการถ่ายทำเป็นเวลานาน KUBET นอกจากนี้เขายังไปเยี่ยมร้านทำตราประทับจริง เพื่อเรียนรู้เทคนิคการแกะสลักจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เขาสามารถจำลองท่าทางการแกะสลักได้อย่างแม่นยำในภาพยนตร์ และยังทำตราประทับส่วนตัวให้ผู้กำกับและทีมงานอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทสูงสุด เขายิ้มและกล่าวว่า: “ตอนรับบทนักแกะสลักหนุ่ม ยิ่งดูผอมและโทรมกว่าน้ำหนักตัวจริง KUBET ต้องขอบคุณทีมงานแต่งหน้าและเครื่องแต่งกายที่ช่วยให้ผมเข้าถึงบทบาทได้เต็มที่”

วรรณกรรมและกิจกรรมเพื่อสังคม

นอกจากการแสดงแล้ว พัคจองมินยังมุ่งมั่นกับ สำนักพิมพ์ของเขา ‘UntitledMuse’ เขาเปิดตัว หนังสือเสียง ก่อนพิมพ์เล่ม และสร้างโครงการ “ฟังนิยาย” เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้สัมผัสความหมายของตัวอักษร KUBET แสดงให้เห็นถึงความสนใจในงานสังคมและกิจกรรมเพื่อสาธารณะ KUBET

กระบวนการเตรียมงานและการออกแบบการถ่ายทำ

ผู้กำกับ ยอนซังโฮ ใช้การ์ตูนต้นฉบับของตัวเองเป็น สคริปต์ภาพ (visual script) ทำให้ขั้นตอนการเตรียมงานง่ายขึ้น ในกองถ่าย ทุกคนไม่เพียงทำงานของตัวเอง KUBET แต่ยังสามารถช่วยเหลืองานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เดิมทีวางแผนถ่ายทำสถานที่จริง แต่เนื่องจากฉากยุค 1970 ส่วนใหญ่ถูกปรับปรุงเป็นสมัยใหม่ ทีมงานจึงสร้าง ถนนชองเกซี, โรงงานเสื้อผ้า ชองปุง และบ้านตัวละครหลัก ขึ้นใหม่ในงบประมาณจำกัด แผนกศิลปะและอุปกรณ์จัดทำรายละเอียดชีวิตในยุคนั้นอย่างครบถ้วน ตั้งแต่บิลค่าน้ำค่าไฟ ใบอนุญาตทีวี ไปจนถึงบัตรลงเวลาในโรงงาน KUBET ความสมจริงทำให้นักแสดง ชินอึนจิน พูดว่า: “เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยุค 70 จริง ๆ!” KUBET

ข้อมูลการฉาย

《น่าเกลียดที่สุด》 เป็นผลงานภาพยนตร์จอใหญ่ของ ยอนซังโฮ หลังจาก Train to Busan มีกำหนดฉาย 26 กันยายน ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วไต้หวัน KUBET นอกจากจะเป็นเรื่องราวอบอุ่นเกี่ยวกับครอบครัวแล้ว ยังสะท้อนบรรยากาศชีวิตในยุค 1970 และการถ่ายทอดอารมณ์มนุษย์อย่างละเอียด

Q&A

1. พัคจองมินรับบทอะไรในภาพยนตร์เรื่องนี้?

  • เขารับบท สองตัวละคร ได้แก่ นักแกะสลักตราประทับคนตาบอด อิมยองกึย ในวัยหนุ่ม และลูกชายของเขา อิมดงฮวาน

2. เหตุผลใดที่ทำให้พัคจองมินอยากรับบทนักแกะสลักตาบอด?

  • เพราะ พ่อของเขาตาบอดจากอุบัติเหตุ เขาต้องการเข้าใจความลำบากของพ่อและเปลี่ยนความรู้สึกนี้เป็นพลังในการแสดง

3. พัคจองมินเตรียมตัวอย่างไรเพื่อถ่ายทอดบทบาทนักแกะสลักตาบอด?

  • ใส่ คอนแทคเลนส์สีขาวขุ่นพิเศษ
  • ไปเยี่ยม ร้านทำตราประทับจริง เพื่อเรียนรู้เทคนิค
  • ซ้อม ท่าทางการแกะสลัก อย่างแม่นยำ
  • ทำตราประทับส่วนตัวให้ผู้กำกับและทีมงาน

4. พัคจองมินมีส่วนร่วมด้านสังคมอย่างไรนอกเหนือจากการแสดง?

  • เขามี สำนักพิมพ์ ‘UntitledMuse’
  • เปิดตัว หนังสือเสียง
  • สร้างโครงการ “ฟังนิยาย” เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสัมผัสความหมายของตัวอักษร

5. ทีมงานสร้างฉากยุค 1970 อย่างไรในงบจำกัด?

  • สร้าง ถนนชองเกซี, โรงงานเสื้อผ้า ชองปุง และบ้านตัวละครหลัก ขึ้นใหม่
  • แผนกศิลปะและอุปกรณ์จัดทำ รายละเอียดชีวิตในยุคนั้น เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ ใบอนุญาตทีวี และบัตรลงเวลาในโรงงาน
  • ทำให้ความสมจริงสูงจนทำให้นักแสดงรู้สึกเหมือนได้ ย้อนเวลากลับไปยุค 70




เนื้อหาที่น่าสนใจ: