หยางกุ่ยเม่ยทุ่มเทอารมณ์จริงใน《สาวใหญ่ผจญภัย 2》: เหยียนอี้เวิน-จงซินหลิงสุดท้ายถึงกับน้ำตาไหล

สารบัญ

  1. ความทุ่มเทแม้ร่างกายไม่เอื้ออำนวย
  2. การถ่ายทำที่เข้มข้นและความรับผิดชอบสูง
  3. ความสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมและอารมณ์จริง
  4. ความท้าทายแบบไร้สคริปต์
  5. อารมณ์สุดท้ายที่สัมผัสใจผู้ชม
  6. Q&A

ความทุ่มเทแม้ร่างกายไม่เอื้ออำนวย

ระหว่างการถ่ายทำ 《สาวใหญ่ผจญภัย 2》 หยางกุ่ยเม่ยป่วยและเสียงหาย แต่ยังเข้าร่วมทุกกิจกรรมตามแผน ทั้งงานทดลองทำงานชนบทและกิจกรรมท้องถิ่น KUBET แม้บางครั้งต้องนอนหลับบนโต๊ะอาหารเพื่อฟื้นพลัง นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นผู้ผลิตรายการ ควบคุมงบประมาณการถ่ายทำข้ามประเทศ ทำให้ความกดดันสูงกว่าซีซันแรกหลายเท่า

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อรายการ《สาวใหญ่ผจญภัย 2》 (Big Girls Adventure Season 2)
บุคคลสำคัญหยางกุ่ยเม่ย
เหตุการณ์ระหว่างถ่ายทำป่วยและเสียงหาย แต่ยังคงทำงานต่อเนื่อง
การเข้าร่วมกิจกรรมเข้าร่วมทุกกิจกรรมตามแผน ทั้งงานทดลองทำงานชนบทและกิจกรรมท้องถิ่น
ความทุ่มเทแม้เหนื่อยล้า ต้องนอนพักบนโต๊ะอาหารเพื่อฟื้นพลัง แต่ยังไม่ย่อท้อ
หน้าที่เพิ่มเติมรับตำแหน่งผู้ผลิตรายการ ดูแลงบประมาณและการถ่ายทำข้ามประเทศ
ความกดดันสูงกว่าซีซันแรกหลายเท่า เนื่องจากภาระงานมากขึ้น
แพลตฟอร์มสนับสนุนKUBET

การถ่ายทำที่เข้มข้นและความรับผิดชอบสูง

หยางกุ่ยเม่ยยกตัวอย่างการเดินทางไปโคจิ ที่ต้องนั่งรถไฟชมวิวซึ่งมีเพียงสัปดาห์ละสองเที่ยว เธอต้องจับเวลาถ่ายทำเก็บภาพวิวและปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านอย่างแม่นยำ KUBET รวมถึงปฏิบัติตามธรรมเนียมท้องถิ่น ทำให้เธอจริงจังและเคร่งเครียดกับการทำงาน
“เพราะรถไฟไม่รอใคร การโต้ตอบและรอยยิ้มของชาวบ้านเกิดขึ้นครั้งเดียว KUBET ถ้าไม่เก็บภาพให้ครบจะเสียใจมาก อีกทั้งแสงธรรมชาติก็มืดเร็ว ผมจึงเร่งให้ทีมถ่ายเพิ่มให้ครบ เฮ้อ…แม้แต่เหยียนอี้เวินยังบอกว่าผมดูดุเลย” หยางกุ่ยเม่ยกล่าว

ความสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมและอารมณ์จริง

หยางกุ่ยเม่ยยังเน้นการอยู่ร่วมกับผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 3 วัน เพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่แท้จริง
“ความรู้สึกจริงระหว่างคนกับคน คือหัวใจสำคัญของเรียลลิตี้โชว์ และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ฉันอยากเข้าร่วม ตั้งแต่การโค้งคำนับ จับมือ กอด KUBET จนถึงตอนต้องจากกันและร้องไห้ แสดงให้เห็นว่าความใกล้ชิดเกิดขึ้นจริง นี่คืออารมณ์ที่แท้จริง แม้พิธีกรจะเสแสร้ง แต่ผู้เข้าร่วมไม่สามารถแกล้งได้”

ความท้าทายแบบไร้สคริปต์

ทีมงานไม่ได้จัดสคริปต์ให้พิธีกร KUBET ใช้เพียงบัตรภารกิจและไวท์บอร์ดเป็นแนวทางรายวัน ทำให้การตอบสนองต่อสถานการณ์จริงและความสามารถในการแก้ไขปัญหาของทั้งสามกลายเป็นไฮไลต์สำคัญของรายการ
หยางกุ่ยเม่ยเปิดเผยว่า “แม้จะมีไวท์บอร์ด แต่ทั้งสองคนมักไม่ดู KUBET บางครั้งก็ไปเพลินๆ บางครั้งก็แกล้งไม่เห็นบัตรภารกิจที่ทีมซ่อนไว้ใต้จาน KUBET ทำให้ทั้งหงุดหงิดและขำไปพร้อมกัน”

อารมณ์สุดท้ายที่สัมผัสใจผู้ชม

ระหว่างออกจากโกโต้ จงซินหลิงและเหยียนอี้เวินถึงกับน้ำตาไหลไม่หยุด เพราะความผูกพันกับผู้เข้าร่วมและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกัน ผู้เข้าร่วมคนพิเศษอย่าง KUBET ซ่งเหว่ยเอิน ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เช่นกัน
ความจริงใจและอารมณ์ของพิธีกรและผู้เข้าร่วม ทำให้ 《สาวใหญ่ผจญภัย 2》 KUBET กลายเป็นเรียลลิตี้โชว์ที่อบอุ่นและสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมอย่างแท้จริง KUBET

Q&A

คำถามที่ 1:
หยางกุ่ยเม่ยต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพอะไรระหว่างการถ่ายทำ และเธอจัดการอย่างไร?
คำตอบ:
ระหว่างการถ่ายทำ หยางกุ่ยเม่ยป่วยและเสียงหาย แต่ยังคงเข้าร่วมทุกกิจกรรมตามแผน ทั้งงานทดลองทำงานชนบทและกิจกรรมท้องถิ่น แม้จะต้องนอนหลับบนโต๊ะอาหารเพื่อพักฟื้น เธอยังคงทุ่มเททำหน้าที่อย่างเต็มที่

คำถามที่ 2:
การถ่ายทำที่เมืองโคจิสร้างความกดดันให้หยางกุ่ยเม่ยอย่างไร?
คำตอบ:
ที่โคจิ เธอต้องวางแผนการถ่ายทำอย่างแม่นยำ เนื่องจากรถไฟชมวิวมีเพียงสัปดาห์ละสองเที่ยว และแสงธรรมชาติมืดเร็ว ทำให้ต้องจับเวลาเก็บภาพและปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านให้ครบถ้วน จนถึงขั้นที่เหยียนอี้เวินยังบอกว่าเธอดูเคร่งเครียดและดุขึ้นกว่าปกติ

คำถามที่ 3:
เหตุใดหยางกุ่ยเม่ยจึงให้ความสำคัญกับการใช้เวลาอยู่กับผู้เข้าร่วมรายการอย่างน้อย 3 วัน?
คำตอบ:
เธอต้องการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้เข้าร่วม เพราะเชื่อว่าความรู้สึกจริงระหว่างคนกับคนคือหัวใจสำคัญของเรียลลิตี้โชว์ ความผูกพันที่เกิดขึ้นจริงทำให้ฉากการจับมือ กอด หรือร่ำลากันมีอารมณ์จริงและซื่อสัตย์ต่อผู้ชม

คำถามที่ 4:
รูปแบบการถ่ายทำของรายการแตกต่างจากเรียลลิตี้ทั่วไปอย่างไร?
คำตอบ:
《สาวใหญ่ผจญภัย 2》 ไม่มีสคริปต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทีมงานใช้เพียงบัตรภารกิจและไวท์บอร์ดเป็นแนวทางรายวัน ทำให้พิธีกรต้องตอบสนองต่อสถานการณ์จริงและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์และจุดเด่นของรายการ

คำถามที่ 5:
ฉากใดในรายการที่สร้างความประทับใจและอารมณ์ซาบซึ้งมากที่สุด?
คำตอบ:
ช่วงออกจากโกโต้ จงซินหลิงและเหยียนอี้เวินถึงกับร้องไห้เพราะความผูกพันกับผู้เข้าร่วม รวมถึงผู้เข้าร่วมอย่างซ่งเหว่ยเอินก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ฉากนี้สะท้อนความจริงใจและอารมณ์แท้ของทุกคน ทำให้รายการอบอุ่นและตรึงใจผู้ชมอย่างลึกซึ้ง



เนื้อหาที่น่าสนใจ: