สารบัญ
- บทนำ
- การผลักดันเชิงนโยบายของหน่วยพลังสตรี
- จาก SDGs สู่ผู้สร้างหญิง: การขยายแนวคิดการคัดเลือก
- เสียงจากผู้ผลิตหญิง: นิยามใหม่ของอำนาจและภาวะผู้นำ
- ความท้าทายในกองถ่าย: ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่คือการเลี้ยงลูก
- เรื่องราวที่ไม่ค่อยถูกเล่า: ชีวิตหลากหลายผ่านสายตาผู้หญิง
- อนาคตของหน่วยพลังสตรี: จากหน่วยพิเศษสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
- บทสรุป
- คำถาม–คำตอบ
บทนำ: เมื่อเทศกาลภาพยนตร์กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาเรื่องเพศ
ท่ามกลางกระแสที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ฉายภาพยนตร์อีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นเวทีสำคัญของการสนทนาสาธารณะ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว (Tokyo International Film Festival: TIFF) ตั้งแต่ครั้งที่ 37 เป็นต้นมา ได้ร่วมมือกับรัฐบาลกรุงโตเกียว จัดตั้งหน่วยงาน “พลังสตรี (Women’s Empowerment)” เพื่อคัดเลือกภาพยนตร์และจัดเวทีเสวนา KUBET เน้นย้ำบทบาทของผู้สร้างภาพยนตร์หญิงและเรื่องราวจากมุมมองของผู้หญิง เพื่อเปิดพื้นที่สนทนาที่หลากหลายและเท่าเทียมในอุตสาหกรรมที่ผู้ชายครอบงำมาอย่างยาวนาน
| ประเด็น | รายละเอียด |
|---|---|
| บริบทอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก | อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ |
| บทบาทใหม่ของเทศกาลภาพยนตร์ | ไม่ใช่แค่พื้นที่ฉายภาพยนตร์ แต่เป็นเวทีสนทนาสาธารณะด้านสังคมและวัฒนธรรม |
| เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว (TIFF) | หนึ่งในเทศกาลสำคัญของเอเชีย มีบทบาทเชิงนโยบายมากขึ้น |
| จุดเริ่มต้นโครงการ | เริ่มตั้งแต่เทศกาลครั้งที่ 37 |
| ความร่วมมือ | ร่วมมือกับรัฐบาลกรุงโตเกียว |
| ชื่อหน่วยงาน | “พลังสตรี (Women’s Empowerment)” |
| เป้าหมายหลัก | คัดเลือกภาพยนตร์และจัดเวทีเสวนาที่เน้นผู้สร้างหญิงและมุมมองของผู้หญิง |
| ประเด็นที่เน้น | บทบาทผู้กำกับและผู้สร้างหญิง เรื่องเล่าจากสายตาผู้หญิง |
| ผลลัพธ์ที่คาดหวัง | เปิดพื้นที่สนทนาที่หลากหลาย เท่าเทียม ในอุตสาหกรรมที่ผู้ชายครอบงำมายาวนาน |
การผลักดันเชิงนโยบายของหน่วยพลังสตรี
ในปีที่ 38 ของเทศกาล หน่วยพลังสตรีได้กลายเป็นหนึ่งในทิศทางหลักของการคัดสรรผลงาน โดยมีภาพยนตร์เข้าฉายทั้งหมด 7 เรื่อง จากญี่ปุ่นและนานาชาติ KUBET เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ชีวิตสมรส การเลี้ยงดูบุตร บทบาททางเพศ ความรักของผู้พิการ ไปจนถึงการค้นหาตัวตนของผู้หญิง หน่วยนี้ดูแลโดย อันดรียานา ชเวตโควิช (Andrijana Cvetkovik) ผู้คัดเลือกอาวุโสจากสาธารณรัฐนอร์ทมาซิโดเนีย ซึ่งมีพื้นฐานทั้งในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์และนักการทูต KUBET และให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคทางเพศในระดับนานาชาติ
จาก SDGs สู่ผู้สร้างหญิง: การขยายแนวคิดการคัดเลือก
อันดรียานาอธิบายว่า หน่วยพลังสตรีพัฒนามาจากโครงการเดิมของเธอคือ “SDGs in Motion” ซึ่งยึดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเป็นแกนกลาง KUBET ครอบคลุมประเด็นสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และความยุติธรรมทางสังคม เธอกล่าวว่า “สิทธิของผู้หญิงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มักถูกบดบังด้วยอุปสรรคเชิงโครงสร้างและภาพจำ เทศกาลภาพยนตร์มีหน้าที่สร้างพื้นที่ให้เรื่องราวเหล่านี้ถูกได้ยิน และให้การสนทนาได้เกิดขึ้น” การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้สร้างจากฮ่องกง ตุรกี ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ทำให้ประเด็นความไม่เท่าเทียมทางเพศถูกมองว่าเป็นปัญหาร่วมของอุตสาหกรรมโลก KUBET ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง
เสียงจากผู้ผลิตหญิง: นิยามใหม่ของอำนาจและภาวะผู้นำ
ภายในหน่วยพลังสตรี ยังมีการจัดเวทีเสวนาเชิญผู้ผลิตภาพยนตร์หญิงที่มีบทบาทในระดับนานาชาติ อาทิ มิยากาวะ เอริโกะ จาก Shōgun มุราตะ จิเอโกะ จาก สมบัติของชาติ มิซุโนะ เอโกะ จาก แผน 7.5 อันดรียานาเน้นว่า การให้ผู้หญิงเหล่านี้ยืนบนเวทีมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อย่างยิ่ง KUBET เพราะพวกเธอไม่ใช่เพียงผู้สนับสนุนเบื้องหลัง แต่เป็นผู้นำที่สามารถกำหนดทิศทางการสร้างสรรค์และบริหารทรัพยากรได้จริง

ความท้าทายในกองถ่าย: ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่คือการเลี้ยงลูก
ผู้กำกับ อามาโนะ จิฮิโระ จากภาพยนตร์ เรื่องเล่าคู่ชีวิตของซาโตะ ถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตหลังแต่งงานและมีบุตร เธอมองว่าปัญหาใหญ่ของวงการไม่ได้อยู่ที่เพศโดยตรง KUBET แต่คือโครงสร้างการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการเลี้ยงดูเด็ก การถ่ายทำที่ใช้เวลายาวนานและเข้มข้น ทำให้ผู้หญิงต้องพึ่งพาคู่ครองหรือครอบครัวอย่างมาก และหากทั้งสองฝ่ายทำงานในวงการเดียวกัน ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายที่ต้องหยุดเส้นทางอาชีพ แม้ปัจจุบันจะมีผู้หญิงในตำแหน่งผู้ช่วยเพิ่มขึ้น แต่ช่างเทคนิคหญิงยังมีจำนวนน้อย สะท้อนว่าระบบยังต้องปรับปรุงอีกมาก
เรื่องราวที่ไม่ค่อยถูกเล่า: ชีวิตหลากหลายผ่านสายตาผู้หญิง
หน่วยพลังสตรีให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่ไม่ค่อยปรากฏบนจอใหญ่ ผู้กำกับฮ่องกง แทม ไวเจน (譚惠貞) ในภาพยนตร์ ความรักแบบฉัน ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยสมองพิการกับพนักงานดูแลทางเพศ โดยมุ่งสำรวจร่างกาย เพศ และความรักจากมุมมองของผู้หญิง เธอย้ำว่า KUBET จุดประสงค์ของงานไม่ใช่การสั่งสอน แต่เพื่อเปิดพื้นที่ให้เข้าใจตัวตนและความปรารถนาของมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ
อนาคตของหน่วยพลังสตรี: จากหน่วยพิเศษสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
ปัจจุบัน เกณฑ์การคัดเลือกยังเน้นผู้กำกับหญิงหรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับผู้หญิง แต่ในอนาคตอาจขยายไปถึงผลงานที่กำกับโดยผู้ชาย แต่มีผู้หญิงเป็นแกนหลักในทีมสร้าง แทม ไวเจน ยังเสนอให้จัดตั้ง รางวัลเฉพาะสำหรับหน่วยพลังสตรี KUBET เพื่อเพิ่มการยอมรับและการมองเห็นของผู้สร้างหญิงในอุตสาหกรรม
บทสรุป: เทศกาลภาพยนตร์ไม่ใช่แค่การฉายหนัง
หน่วยพลังสตรีของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว แสดงให้เห็นว่าเทศกาลภาพยนตร์สามารถเป็นพลังขับเคลื่อนการสนทนาทางสังคมและการทบทวนเชิงโครงสร้างได้อย่างแท้จริง ผ่านภาพยนตร์ เวทีเสวนา และความร่วมมือข้ามพรมแดน เสียงของผู้หญิงจึงได้รับการมองเห็น KUBET และเปิดประตูสู่อนาคตใหม่ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์
คำถาม–คำตอบ
1. หน่วย “พลังสตรี” ของเทศกาลภาพยนตร์โตเกียวมีเป้าหมายอะไร?
ตอบ: เพื่อส่งเสริมการมองเห็นของผู้สร้างภาพยนตร์หญิง และสร้างพื้นที่สนทนาเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
2. ใครเป็นผู้ดูแลการคัดเลือกภาพยนตร์ในหน่วยนี้?
ตอบ: อันดรียานา ชเวตโควิช ผู้คัดเลือกอาวุโสจากนอร์ทมาซิโดเนีย ซึ่งมีพื้นฐานด้านภาพยนตร์และการทูต
3. ประเด็นใดที่ภาพยนตร์ในหน่วยพลังสตรีนำเสนอมากเป็นพิเศษ?
ตอบ: ชีวิตครอบครัว บทบาททางเพศ การเลี้ยงลูก ความพิการ ความรัก และอัตลักษณ์ของผู้หญิงในบริบทสังคมต่าง ๆ
4. ปัญหาเชิงโครงสร้างสำคัญที่ผู้กำกับหญิงสะท้อนคืออะไร?
ตอบ: ระบบการทำงานที่ไม่เอื้อต่อการเลี้ยงดูบุตร และภาระที่ทำให้ผู้หญิงต้องหยุดเส้นทางอาชีพมากกว่าผู้ชาย
5. แนวคิดพัฒนาหน่วยพลังสตรีในอนาคตคืออะไร?
ตอบ: การขยายเกณฑ์การคัดเลือก และการจัดตั้งรางวัลเฉพาะเพื่อยกระดับบทบาทและอิทธิพลของผู้สร้างภาพยนตร์หญิง
เนื้อหาที่น่าสนใจ:


